คนช่างสงสัย
ชายคนหนึ่งเพิ่งย้ายบ้านเข้าไปอยู่ในชนบท ในวันหนึ่ง เขาจำเป็นต้องออกไปหาซื้ออาหารให้ไก่ที่เลี้ยงไว้ เขาเจอร้านเพียงร้านเดียวที่อยู่ห่างไปประมาณ 5 กิโลเมตร เมื่อเข้าไปในร้าน เขาถามหาอาหารไก่ เจ้าของร้านรีบหยิบมาให้ แต่เมื่อเขาจะจ่ายตังค์
"คุณจะจ่ายตังค์ได้ก้ต่อเมื่อคุณแสดงให้เราเห้นว่าคุณเลี้ยงไก่จริงๆนะครับ ไม่งั้นทางเราจะทราบได้อย่างไรว่าคุณจะไม่เอาไปกินเองหรือเอาไปใช้อย่างอืน" เจ้าของร้านกล่าว
ชายคนนั้นคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ไร้สาระที่สุดที่เขาเคยพบมา จึงเกิดการโต้เถียงกัน ในที่สุดเขาก็ต้องยอมแพ้ ขับรถกลับบ้าน ไปที่กรงไก่แล้วอุ้มไก่ตัวหนึ่งออกมา ขึ้นรถแล้วขับกลับไปที่ร้านเดิม เมื่อเจ้าของร้านแน่ใจแล้วว่าเขาเลี้ยงไก่จริงจึงยอมขายอาหารไก่ให้เขา
อาทิตย์นึงผ่านไป อาหารหมาเกิดหมด ชายคนนั้นจึงต้องขับรถไปที่ร้านเดิม ด้วยความสะเพร่าของเขาที่ลืมอุ้มเจ้าหมามาด้วย เจ้าของร้านยืนกรานที่จะต้องเห็นตัวหมาก่อนจึงจะยอมขายให้ เขาจึงต้องย้อนกลับมาอุ้มหมาเขาขึ้นรถไปที่ร้านเดิม เมื่อเจ้าของร้านแน่ใจแล้วจึงยอมรับเงินของเขาพร้อมกับส่งอาหารหมาให้
สองสามวันต่อมา ชายคนนี้ได้ไปที่ร้านเดิมอีกครั้ง คราวนี้เขาถึอกล่องรองเท้าที่ปิดฝาไว้อย่างมิดชิดแต่เจาะรูเล็กๆ ไว้รูหนึ่ง เมื่อเดินเข้าไปในร้าน เขาวางกล่องลงบนเค้านเต้อร์
"เอานิ้วแหย่ลงไปในรูนี้ จิ้มๆ ดูแล้วเอามาดมซิ" ชายคนนั้นสั่งเจ้าของร้าน
เมื่อเจ้าของร้านแหย่นิ้วลงไป ควักออกมาดมดูก็ร้องลั่น "เฮ้ย! นี่มัน..."
"เออ ขอซื้อกระดาษชำระม้วนนึงซิ"
Ambrosia - [วันงดสูบบุหรี่ 23:13:56]
ไม่พูดเรื่องส่วนตัว
ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีประเทศหนึ่ง ทุกคนเป็นห่วงว่าฝ่ายค้านจะอภิปรายโดยเอาเรื่องส่วนตัว ของรัฐมนตรีมาพูดในสภา แต่ทางฝ่ายค้านก็รับปากว่าจะไม่พูดเรื่องส่วนตัวเด็ดขาด เมื่อเริ่มอภิปรายไม่ใว้วางไจ ผู้นำฝ่ายค้านก็พูดถึงหัวล้านของ รัฐมนตรีว่า สะท้อนแสงทำให้แสบตา เข้าใกล้ก็ เหม็นเขียว ทำให้ประธานสภาไม่พอใจมาก เลยถามผู้นำฝ่ายค้านว่า
" คุณตำหนิท่านรัฐมนตรีโดยไม่พูดถึงการทำงาน มีแต่พูดถึงเรื่องหัวล้านของท่านอย่างนี้คุณก้ผิดสัญญา ที่จะไม่พูดเรื่องส่วนตัวสิครับ "
" ผมไม่ใด้ผิดสัญญาเลย ก็ผมพูด เรื่องหัว ไม่ใด้พูดเรื่องส่วนตัว ที่เป็นแขนขา ของท่านรัฐมนตรีเลยนี่ครับ"
ผู้นำฝ่ายค้านตอบกลับไปทันที่ ทำให้ได้รับเสียงปรบมือจาก สส.พรรคฝ่ายค้านอย่างเกรียวกราว...............
นายเกือบหนึ่งทุ่ม - [26 พ.ค. 2541 19:03:34]
ทำงัยให้คนไทยมีความสุข
คุณซาหมัก คุณชาเลิ๋ม กับคุณบันหาน (นามสมมุติ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับใครทั้งสิ้น) ขณะกำลังเดินทางกลับกรุงเทพด้วยเครื่องบินส่วนตัวลำเดียวกัน คุณซาหมักนั่งอยู่ริมหน้าต่าง มองลงไปเบื้องล่างแล้วจังกล่าวขึ้นว่า
"รู้ไหมว่าตอนนี้ผมคิดจะทำอะไร ผมอยากจะโยนแบ๊งค์ 1000 ลงไปหนึ่งใบเพื่อจะทำให้คนข้างล่างสักคนมีความสุข"
คุณชะเลิ๋มได้ฟังดันนั้นก็ไม่ยอมแพ้ มองลงไปข้างล่างแล้วกล่าว
"โอ๊ย ถ้าเป็นผมนะ ผมจะโยนแบ๊งค์ 500 ลงไปสองใบ ผมก็จะทำให้คนข้างล่างสองคนมีความสุขได้"
"แต่ผมว่านะ ถ้าเป็นผม ผมจะโยนแบ็งค์ 10 บาทลงไป 100 ใบ คงจะทำให้คนไทย 100 คนมีความสุขขึ้นได้บ้าง"
คุณบันหานรีบเสริมทันควัน แบ่บกลัวน้อยหน้า
"ขอโทษนะครับถ้าผมจะเสริมอะไรบ้าง"
เสียงมาจากข้างหน้า บริเวณที่นั่งนักบิน
"ถ้าเป็นกระผม ผมจะโยนท่านทั้งสามลงไปข้างล่าง มันคงทำให้คนไทย 70 ล้านคนมีความสุขขึ้นทันตาเห็นเลย"
Ambrosia - [1 มิ.ย. 2541 12:47:35]
ถอดไม่ได้
สาวสวยท่าทางโง่คนหนึ่ง เดินเข้าไปในร้านตัดผม เมื่อช่างลงมือจะตัด ช่างสังเกตเห็นว่าเธอกำลังใส่หูฟังอยู่ก็เลยขอร้องให้ถอดออก
"ไม่ได้นะ ถอดไม่ได้ ถ้าถอด ชั้นต้องตายแน่ๆ เลย"
สาวโง่ร้องลั่น ช่างตัดผมขอร้องว่า มันจะตัดลำบากมากถ้ายังมีสายอะไรรุงรังอยู่ จึงขอร้องให้ถอดออก แต่สาวน้อยคนนั้นก็ยืนกรานว่าจะไม่ถอดออกแน่นอน ช่างจึงทำอะไรไม่ได้นอกจากเล็มปลายผมเธอไปเรื่อยๆ เมื่อสังเกตว่าเธอเริ่มเคลิ้มหลับ ช่างตัดผมเห็นโอกาสดีจึง ค่อยๆ ดึงหูฟังออกโดยไม่ได้ทำให้เธอตื่น
อีก 3 นาทีต่อมา สาวโง่คนนั้นก็หล่นจากเก้าอี้ เมื่อช่างเข้าไปดูก็พบว่าเธอตายเสียแล้ว ช่างตัดผมคิดในใจ
"โอ้ตายแล้ว ชั้นทำให้เธอตายเหรอเนี่ย ชั้นสงสัยว่ามันคงจะต้องเกี่ยวกับหูฟังนั้นแน่"
ช่างรีบเอาหูฟังของสาวคนนั้งใส่ที่หูเพื่อจะฟังว่าในหูฟังนั้นมีเสียงอะไร แล้วเธอก็ได้ยินเสียงพูดว่า
"หายใจเข้า.....หายใจออก" กลับไปกลับมาอยู่อย่างนี้
จากคุณ u3702059@student.mahidol.ac.th - [2 มิ.ย. 2541 00:59:00]
ไปกันใหญ่
สามีภรรยาคู่หนึ่งขับรถเข้าไปในเมือง สักครู่ก็ตำรวจก็เรียกให้รถของทั้งสองหยุด สามีรีบไขกระจกถามว่าทำไม
"คุณขับรถความเร็วเกินที่กำหนดไว้นะครับ" ตำรวจชี้แจง
"ผมปล่าวสักหน่อย" สามียืนยัน
"ที่รักคะ ก็คุณขับเร้วจริงๆ นี่คะ" ภรรยากล่าวด้วยสีหน้าวิตก
สามีหันกลับไปตวาด "หุบปากของแกให้สนิทเดี๋ยวนี้นะ"
ตำรวจยังชี้แจงต่อ "คุณไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัยด้วยนี่นา"
"ผมคาดนะครับคุณตำรวจ" สามีเถียงหน้าด้านๆ
"โธ่ที่รักคะ คุณไม่ได้คาดนี่คะ" ภรรยายังไม่ยอมเงียบ
คราวนี้สามีโกรธจัด หันไปตบหน้าภรรยาแล้วก้ด่า
"บอกให้เงียบทำไมไม่เงียบนะนังนี่ แ_่ง พูดทีไรได้ซวยทุกที"
คุณตำรวจเห็นดังนั้นเข้าก็รีบเดินไปที่ภรรยา พร้อมกล่าวปลอบ "คุณไม่เป็นไรนะครับคุณผู้หญิง ขอโทษนะครับ นั่นใช่สามีคุณรึเปล่า"
"ใช่ค่ะ"
"แล้วเขาหยาบคาบกับคุณอย่างนี้ประจำเลยเหรอครับ"
"โอ ไม่หรอกค่ะคุณตำรวจ เค้าจะเป็นแบบนี้เฉพาะตอนเมาเท่านั้นเอง"
Ambrosia - [2 มิ.ย. 2541 00:29:38]
จดหมายจากแม่
ถึงลูกรัก
แม่จะเขียนจดหมายนี่ช้าๆ นะ เพราะแม่รู้ว่าแกน่ะ อ่านหนังสือไม่ค่อยเร็ว ตอนนี้พวกเราไม่ได้อยู่ที่บ้านเดิมแล้วนะ พ่อแกเขาอ่านหนังสือพิมพ์เจอ เค้าบอกว่า อุมัติเหตุส่วนใหญ่จะเกิดในบ้าน 45 เปอเซน (แม่ก็เขียนไม่ค่อยถูกนักนะ) ดังนั้นพวกเรา จึงย้ายบ้าน รอบคอบดีไหมล่ะ แต่แม่ส่งที่อยู่ใหม่ให้แกไม่ได้หรอกนะ ไอ้คนเช่าคนก่อนมันเอา ป้ายเลขที่บ้านไปด้วย สงสัยมันคงจะเอาไปติดบ้านหลังใหม่พวกมัน เออ บ้านนี้มีเครื่อง ซักผ้าให้ด้วย แต่เครื่องแบบนี้มันเสียอยู่อย่างเดียว สงสัยถังมันรั่วน่ะลูก แม่ใส่น้ำทีไรก็ไม่เคยเต็ม สักที แม่เลยหันมาใช้กะละมังเหมือนเดิม
ที่นี่ฝนตกแค่อาทิตย์ละสองครั้งนะลูก สามวันครั้งกับสี่วันครั้ง อ้อ เสื้อแจ๊คเกตที่แกอยาก ให้แม่ส่งไปให้น่ะ กระดุมมันเป็นเหล็กนะลูก หนักมาก เวลาส่งไปก็จะเสียตังค์เยอะ ดีที่ป้าแกเค้าฉลาด เค้าก็เลาะกระดุมออกหมด ถ้าแกอยากใส่ก็เย็บกระดุมเอาเองนะ แม่เอากระดุมใส่ถุงแนบมาพร้อมกับแจ๊คเก็ตแกแล้ว เออ เรื่องน้องสาวแก เพิ่งคลอดลูกนะเช้านี่ แม่ยังไม่รู้ทีว่าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงดังนั้นแม่เลยบอก ไม่ได้ว่าแกจะได้เป็นป้าหรือลุง
ไม่รู้จะเขียนอะไรแล้ว แค่นี้นะ รัก จากแม่
ป.ล. เออ..แม่กะจะส่งเงินให้แกอยู่พอดี แต่แม่ดันปิดซองจดหมายแล้วน่ะสิ ลืม...
Ambrosia - [30 พ.ค. 2541 22:59:00]
เมื่อลูกได้รับจดหมายก้อตอบมาทันทีดังนี้
จดหมายตอบจากลูก
แม่คับ
ผมอ่านจดหมายแม่จบภายในเวลาที่แม่เขียนเลยคับ แม่กะเวลาเขียนได้เยี่ยมจริงๆ ผมรู้สึกรักแม่อีกมากคับ
เรื่องบ้านเลขที่ แม่ไม่ต้องห่วงนะคับ ผมคิดให้แม่ใหม่แล้ว เป็น 741 นะคับ พอดีวันนั้นผมดูหนัง แล้วเห็นบ้านเลขที่พระเอก เป็น 741 อ่ะคับ พระเอกหล่อดี เผื่อใช้แล้ว ผมจะหล่อเหมือนพระเอกนะคับ จดหมายฉบับนี้ผมก้อเลยจ่าหน้าซองเป็น 741 เลยนะคับ หวังว่าแม่คงจะชอบ
ถ้านอ้งสาวคลอดลูกหญิง กอ้ดีซินะคับ ผมจะได้เป็นป้านะ ผมไม่อยากเป็นลุงหรอกคับ เห็นไอ้พวกเพือ่นผมเป็นลุงกันหมดทุกคนเลย ผมไม่อยากเหมือนมันเลยคับ
เนือ่งจาก แม่ลืมส่งเงินมาให้ผม เพราะฉนั้นถือว่า แม่ติดผมโดยไม่รู้ตัว ไม่เป็นรัยคับ ครั้งหน้าแม่ส่งเป็น 2 เท่านะคับ ...
ผมจะรอจดหมายจากแม่ด้วยใจจดจ่อคับ ปล. จะเป็นการดี หากแม่ส่งจดหมายโดยไม่ปิดซองคับ ป้องกันการลืมคับ
พี ppry@hotmail.com - [31 พ.ค. 2541 00:15:01]
แล้วปืนล่ะ
ชายคนหนึ่งได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนบ้าน บอกว่ามีลิงกอริลล่ากำลังเล่นเสาอากาศอยู่บนหลังคาบ้านของเขา เมื่อเขาวิ่งไปที่สนามหญ้า เงยหน้าขึ้นไปแล้วเขาก็เห็นจริงๆ ลิงกอริลล่าตัวใหญ่สูงเท่า่คนกำลังเหวี่ยงเสาอากาศของเขาเล่นอย่างสนุกสนาน ชายคนนั้นรีบวิ่งเข้าไปในบ้าน โทรขอความช่วยเหลือจากสวนสัตว์ สิบนาทีต่อมา รถของสวนสัตว์ก็มาถึง มีพนักงานคนเดียวลงมาพร้อมกับหอบเอาอุปกรณ์จัดการกับกอริลล่า ได้แก่ บันไดเหล็ก ไม้เบสบอล ปืน แล้วก็หมา พนักงานสวนสัตว์เริ่มเล่าถึงแผนการ
"ผมเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องกอริลล่าครับ กรณีพวกนี้ ผมเจอบ่อยมาก ตอนแรกผมก็จะใช้บันไ้ดนี่ปีนขึ้นไปบนหลังคาบ้าน แล้วก็ตีหัวเจ้ากอริลล่าด้วยไม้เบสบอลนี่ พอมันหล่นตุ้บลงมาบนพื้น เจ้าหมาตัวนั้นก็จะวิ่งเข้ามากัดตรงของลับของมัน"
"อ้าว แล้วปืนนี่ล่ะครับ ไว้ใช้ทำอะไร" ชายคนนั้นยังสงสัย
"อืม..ก็ถ้าบางที ตอนผมจะตีเจ้าลิงนั่น แล้วถ้ามันเกิดฉวยเอาไม้เบสบอลไปแล้วตีผมบ้าง คุณช่วยเอาปืนยิงไอ้หมานั่นก่อนที่ผมจะตกถึงพื้นนะ"
Ambrosia - [1 มิ.ย. 2541 01:12:47]
คำสั่งก่อนตาย
ชายคนหนึ่ง ได้เคยขอร้องเพื่อนสนิททั้งสาม ได้แก่ หมอ, นักสังคมสงเคราห์และทนายความว่า เมื่อใดที่เขาตายไป ให้นำเงินหนึ่งล้านบาทในซองที่เขากำลังจะมอบให้เพื่อนแต่ละคนนี้ ใส่ลงไปในโลงศพด้วยก่อนที่จะฝังดิน เพราะเขาอยากจะมีเงินไว้ใช้ในชาติหน้า สัปดาห์ต่อมา ชายคนนี้ได้ตายลง ในพิธีฝังศพ เพื่อนทั้งสามก็ได้ใส่ซองที่ชายคนนี้มอบให้ลงไปในโลงทั้ง 3 ซองอย่างที่ได้ตกลงกันไว้ เมื่อพิธีศพผ่านไปได้สัปดาห์หนึ่ง คนทั้งสามบังเอิญมาเจอกันในบาร์ จึงชวนกันกินเหล้า นั่งไปได้สักครู่ นักสังคมสงเคราะห์เริ่มรู้สึกละอายใจจึงสารภาพออกมา "พวกนายจำเรื่องซองเงินหนึ่งล้านนั่นได้ไหม พวกนายจะด่าจะว่าเราก็ได้นะ แต่เราขอสารภาพว่าเราใส่ลงไปแค่หนึ่งหมื่นบาทเท่านั้นเอง แต่เงินที่เหลือนั้น ส่วนหนึ่ง เราก็เอาไปบริจาคให้พวกเด็กกำพร้าเมื่อวานนี้ แต่ เรายังรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเลย" ฝ่ายหมอได้ยินเข้าจึงรีบพูดขึ้นว่า "ก็ดีแล้วที่นายพูดขึ้นมา เราก็ขอสารภาพเหมือนกัน เราเหลือเงินไว้ในซองแค่ 8000 เท่านั้นเอง เราเอาเงินไปใช้ส่วนหนึ่งแล้วก็บริจาคให้มูลนิธิของแพทย์" ฝ่ายทนาย นั่งฟังอยู่นาน ทนไม่ไหวจึงโวยวายขึ้น "อะไรกันเนี่ย พวกนายเป็นเพื่อนประเภทไหนกัน ไอ้จอห์นมันอุตส่าห์ไว้ใจพวกเราแต่แกกลับโกงเอาคนตายอย่างงี้เรอะ ให้ตายเถอะ แล้วฉันจะบอกพวกแกไว้เอาบุญนะ ในซองนั่นน่ะ ฉันใส่เงินครบทุกบาททุกสตางค์ตามที่จอห์นมันสั่ง" "อะไรนะ นายหมายความว่า หนึ่งล้านบาทถ้วนๆ เลยเรอะ" ทนายนิ่งไปพักหนึ่งก่อนตอบเบาๆ "อืม ใช่ ถ้วนๆ เลย แต่เป็นเช๊คเงินสดนะ"
Ambrosia - [10 มิ.ย. 2541 01:30:54]
.....เรื่อง ขำ ขำ ที่ร้านป้าใหญ่ (ข้างๆ ABAC)......
คือเรื่องนี้นะฮะมันนานแล้วล่ะสมัยที่ผมเรียนอยู่ที่นั่น เป็นตอนกลางวันระหว่างรอเรียนวิชา ต่อไปผมกับเพื่อนก็ได้ไปทานอาหารกันที่ร้านป้าใหญ่เป็นร้านขายข้าวแกงอยู่ตรงข้างๆ ABAC เวลากลางวันเนี่ยร้านแกคนจะเยอะมาก มุงกันเต็มตู้เลยฮะเพื่อจะสั่งอาหาร ผมก็มองหากับข้าว ที่คุ้นเคย มองๆไปในถาดอาหารต่างๆก็น่ากินครับ ผมก็เตรียมเลือกอาหารไว้ในใจแล้วล่ะ เล็ง ไข่พะโล้ กับ หมูทอดไว้ผมก็รอคิวจนกว่าแกจะถามว่าจะเอาอะไร ไข่พะโล้เนี่ยเป็นอาหารที่ Pop มากเห็นกี่คนกี่คน ก็สั่งไข่พะโล้เป็นส่วนใหญ่ และแล้วก็ถึงคิวผม ผมก็กำลังจะสั่งไข่พะโล้ กะ หมูทอด บังเอิ๊ญ บังเอิญ เหลือบไปเห็นสิ่งแปลกปลอมในถาดไข่พะโล้ ผมก็ทบทวนความทรงจำทั้งหมดเท่าที่มี อยู่เกี่ยวกับส่วนประกอบอันพึงจะมีในไข่พะโล้ ซึ่งควรจะประกอบไปด้วย ไข่พะโล้ (ทรงรีสีน้ำตาล) เต้าหู้ (ทรงสี่เหลี่ยมบวมๆสีน้ำตาล) หมูสามชั้น (ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีน้ำตาลมีแถบสีครีมตรงกลาง) แต่สิ่งที่เห็นลักษณะเหมือนกุ้งคือมีหลายๆขาแต่นับได้หก มีหนวดชี้เป็นรูปตัววี ตอนแรกนึกว่ากุ้งดูไป ดูมาที่แท้คือ อดีตแมลงสาบ ตอนนี้ ดำรงตำแหน่งแมลงสาบพะโล้ไปเรียบร้อยแล้ว สิ่งดีงาม..ความ ทรงจำที่ดี ...ความหลัง...ที่เคยมีให้กับผองเผ่าเหล่าไข่พะโล้ ได้สูญสิ้นในพริบตา สิ่งที่ผมทำได้ตอนนี้ คือทำใจให้เข้มแข็งและต้องพยายามบอกแกให้ทราบโดยคนอื่นไม่รู้ ผมพยายามเดินไปข้างหลังตู้เพื่อ จะกระซิบแกให้ช้อนแมลงสาบออกไป แต่แกเห็นผมพยายามจะเข้าใกล้แก แกก็บอกว่า "หนูเอาอะไรจ๊ะ" โดยแกพยายามไม่ให้ผมเข้าใกล้แก ผมก็เลยต้องอยู่หน้าตู้และพยายามทำมือส่งซิกแนลให้ช้อนแมลงสาป ออกไป แกดูเหมือนจะไม่เข้าใจ เพราะใน Algorithm ของแกจะกำหนดไว้แค่ถ้ามีคนมายืนอยู่หน้าตู้แล้ว ชี้ไปที่อาหารจะหมายถึงสั่งอาหารนั้น แกก็ตักไข่พะโล้ราดข้าวแล้วถามผมว่าเอาอะไรอีก ผมก็บอกว่า ไม่ใช่ๆ แล้วก็ชี้ไปที่ไข่พะโล้ (จริงๆ แล้วชี้ไปที่แมลงสาปพะโล้) แล้วพยายามทำปากว่าแมลงสาปๆ โดย ไม่เปล่งเสียงออกไปเพราะกลัวฝูงชนแตกตื่น แกก็งงฮะ บอกว่าไม่ใช่ไข่พะโล้แต่ชี้ไปที่ไข่พะโล้แถมทำหน้า แปลกๆอีก แกก็ชักโมโหก็ถามผมดังๆว่า "หนู! จะกินอะไรก็บอกป้าซิจ๊ะ พูดดังๆซิ ป้าไม่ค่อยได้ยิน" ผมไม่มีทางเลือกแล้วล่ะครับ สถานการณ์มันบีบบังคับให้ผมต้องทำอย่างนั้น ผมเลยพูดด้วยน้ำเสียงชัดเจน หนักแน่นกังวาล "ป้าครับมีแมลงสาปนอนตายอยู่ในไข่พะโล้" เหมือนโลกหยุดหมุน กาลเวลาหยุดนิ่ง นักศึกษาทุกคนในร้านเงียบหมด ทุกคนหยุดการเคลื่อนไหว (หลายคนถือช้อนค้างแต่ไม่เข้าปาก) ทุกคนอึ้งครับ!!! ป้าใหญ่เหงื่อแตกพลั่กม่านตาขยาย มองไปที่ถาดไข่พะโล้ พร้อมสายตาทุกคู่ที่อยู่หน้า ตู้ ป้าใหญ่บรรจงช้อนเจ้าแมลงสาปพะโล้ออกไปทิ้ง เสร็จแล้วก็กลับสู่ Default mode แสดงสีหน้าเหมือน ไม่มีอะไร ที่กลุ่มผู้มุงสั่งอาหารเริ่มสลายโต๋ นศ.หลายคนรวบช้อน นศ.หลายคนวิ่งไปหลังร้าน สงสารก็ แต่น้องผู้หญิงคนนึงซึ่งสั่งข้าวไข่พะโล้แล้วกัดเต้าหู้ไปครึ่งคำเป็นเต้าหู้ฉ่ำน้ำพะโล้ แกคงอินมากเลยกับ น้ำพะโล้ที่มีแมลงสาปนอนตายอยู่ ถึงกับร้องไห้เลยครับ ตั้งแต่นั้นมาผมก็ไม่ได้ไปกินร้านป้าใหญ่อีกเลย ครับ กลัวประวัติศาสตร์ซ้ำรอย
เจ มลทิน - [11 มิ.ย. 2541 06:10:25]
@@@ตาหลก@@@
กุนซือทีมบราซิลให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว..(เมื่อกี้เอง)
นักข่าว--- คุณพอใจกับผลที่ออกมาหรือปล่าวครับ..ชนะสก๊อตแลนด์ 2-1
โค้ช--- พอใจน่ะพอใจอยู่..แต่ที่เห็นผมกระฟัดกระเฟียด ก็พวกนักบอลผม มันเล่นไม่ได้ดั่งใจเล๊ย..โธ่เอ๊ย!
นักข่าว--- บราซิลชนะ 2-1 ยังไม่ได้ดังใจอีกหรือครับ.
โค้ช--- มันควรจะชนะ สัก 3-1 หรือ 4-1 มากกว่าดี้..โธ่!
นักข่าว--- ทำไมล่ะครับ..!
โค้ช--- ก็ผมต่อทีมบราซิลชนะสก๊ตแลนด์ไว้ 2 ลูกน่ะดี้.. เจ้าโรนาลโด้มันไม่ยอม ทำประตูเพิ่มเลย..อย่างงี้ ผมก็เสียตังค์ดี้..โธ่เว๊ย...!
8(~_^)8
note (note) - [11 มิ.ย. 2541 02:01:27]
@@@ตาหลก@@@
ณ. โรงแรมหรูระดับ5ดาวแห่งหนึ่ง... มีเสียงฮือฮาของแขกที่มาพัก..บ้างก็ร้องด้วยความหวาดกลัว เพราะมีชายหนุ่มคนหนึ่ง เอาเสื้อยืดคลุมหัวแต่ท่อนล่างเปลือยปล่าว กำลังวิ่งไปรอบๆล๊อบบี้ของโรงแรม แล้วสักพักเขาก็วิ่งออกจากประตูโรงแรมหายลับเข้าไปในสวนสาธารณะข้างโรงแรม... หลังจากที่เหตุการณ์คลี่คลายลง..ยามของโรงแรมก็เริ่มสอบถามหาสาเหตุ.. มาพบหญิงสาวผู้หนึ่ง ซึ่งเป็นแขกพักอยู่ในโรงแรมนั้นเอง.. ยาม--- คุณผู้หญิงเป็นอะไรกับนายคนนั้นครับ.
หญิงสาว--- เป็นเมียเขาค่ะ..
ยาม--- แล้วเขาเกิดอาการคลั่งขึ้นมาได้ไงครับ..
หญิงสาว--- อ๋อ.! มันเป็นปกติซะแล้วค่ะ เขาเริ่มเป็นงี้ประมาณ..จำได้ก็ 3-4 เดือนมาเนี่ยค่ะ..
ยาม--- แล้วคุณคิดว่าเขาเป็นอะไรครับ..
หญิงสาว--- คงบ้าบอลมากนะค่ะ.. ทุกครั้งที่เขาทำประตูได้เขาก็จะมีอาการอย่างที่ เห็นแหละ..ฉันชินซะแล้วล่ะ.....
8(^^)8
note (note) - [10 มิ.ย. 2541 20:43:33]
@@@ ตาหลก @@@
ในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบแรก..ระหว่างไทยกับบราซิล (ปีไหนหว่า) นักข่าวรุมสัมภาษณ์ กุนซือบราซิล กันแน่นขนัด....
นักข่าว--- คุณว่าบราซิลจะเอาชนะไทยได้ไม๊ครับ.
โค้ชบราซิล--- แน่นอนครับ.. ต้องเอาชนะได้แน่นอนครับ
นักข่าว--- คุณคิดว่าการเล่นของไทยเป็นไงครับ.
โค้ชบราซิล--- อึม.. ไทย มีกองหน้าที่คมดี..ก็น่าหนักใจอยู่เหมือนกัน
นักข่าว--- แล้วการเล่นของบราซิลล่ะครับ
โค้ชบราซิล--- แต่บราซิลมีหัวหอกอย่าง โรนาลโด้.. ไม่น่าหนักใจในการทำ ประตูนะ.. จะหนักใจก็กองหลัง..
นักข่าว--- ผลการแข่งขันคู่นี้ จะเป็นอย่างไรครับ
โค้ชบราซิล--- ผมมั่นใจ บราซิลต้องชนะไทย 5-4 ประตู
นักข่าว--- โอ้โห... คุณให้ไทยทำประตูได้ถึง4ประตูเชียวหรือครับ..
โค้ชบราซิล--- ใครบอกล่ะ.. ผมบอกแล้วว่าหนักใจไอ้พวกกองหลังของผม.. มันจะทำลูกเข้าประตูตัวเองซะ 4 ลูกดี้.. 8(^^)8
จากคุณ : note -
เสียงประหลาดในถ้ำมาม่า
นักสำรวจถ้ำ 3 คนเข้าไปสำรวจถ้ำที่เพิ่งค้นพบในหุบเขามาม่า
นักสำรวจคนที่ 1 : ถ้ำนี้น่ากลัวจังเลยนะ
นักสำรวจคนที่ 2 : ใช่ ! ถ้ามีสัตว์ร้ายอาศัยอยู่ในนี้ เราคงไม่เหลือ
ในขณะที่นักสำรวจทั้งสองกำลังโต้เถียงกันด้วยความกลัวนั้น นักสำรวจที่ 2 ซึ่งมีสีหน้าบึ้งตึงมาพักใหญ่ก็ว่าเพื่อนร่วมทีมทั้งสองว่า
" หุบปากเหอะน่า รีบทำงานให้เสร็จ จะได้กลับออกไปซะที "
แล้วทั้งสามก็ง่วนกับงานของตัวกันพักใหญ่ จนมาถึงส่วนหนึ่งของถ้ำก็ได้ยินเสียงคำรามโหยหวนแว่วมา จึงเงี่ยหูฟัง เมื่อไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งสามจึงสำรวจถ้ำต่อไป แต่เสียงนั้นก็ยังคงดังตามมาเป็นระยะๆและถี่ขึ้น นักสำรวจที่ 1 ทนไม่ไหวพูดด้วยเสียงอันสั่นว่า
" เฮ้ย ! ได้ยินเสียงอะไรมั้ยวะ น่ากลัว_ิบ "
นักสำรวจที่ 3 ปรามเพื่อนทันทีด้วยความกลัวไม่แพ้กัน
" ชู่ว์....อย่าเอ็ดไป เดี๋ยวไอ้ตัวนั้นมันก็หาเราเจอหรอก "
นักสำรวจที่ 2 ทำสีหน้าเหนื่อยหน่ายแต่ยังไม่ยอมหยุดทำงานของตน จนกระทั่งงานใกล้เสร็จเสียงประหลาดก็ดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับกลิ่นเหม็นตุตุ ทำให้นักสำรวจทั้งสองไม่เป็นอันทำงาน จนกระทั่งเสร็จงาน นักสำรวจที่ 2 มีท่าทีเหมือนโล่งใจเป็นอันมาก ชวนเพื่อนทั้งสองออกไปนอกถ้ำพลางพูดในขณะที่เดินนำไปลิ่วๆว่า
" เฮ้อ เสร็จซะที รีบออกไปกันเถอะ ข้าปวด_ี้จะแย่อยู่แล้ว ! "
ว่าแล้วนักสำรวจที่ 2 ก็เดินลับสายตาไปพร้อมกับเสียงประหลาดนั้นก็ไกลออกไปเรื่อยๆ ทิ้งให้นักสำรวจที่เหลือยืนมองตากันปริบๆ พลางด่าตามหลังนักสำรวจที่ 2 ว่า
" ไอ้_่า ! ปวด_ี้ก็ไม่บอก ปล่อยให้เราผวากับเสียง_ดของมันแทบตาย ! "
เครื่องคอมฯ แสนรู้
เคนกำลังมีปํญหาเรื่องเจ็บหัวเข่าจึงปรึกษาเพื่อนว่าจะไปหาหมอที่ไหนดี เพื่อนแนะนำว่า
"จะไปหาหมออยู่ทำไม รู้ไหมที่ร้านขายยาตรงหัวมุมน่ะ มีเครื่องคอมพิวเตอร์วินิจฉัยโรคได้ร้อยแปดอย่างเลย เพียงแต่นายเอาตัวอย่างฉี่นายไปให้เครื่องตรวจเท่านั้นเอง"
เมื่อเคนไปที่ร้านขายยาและเจอเครื่องคอมฯ ที่ว่า เขาจึงเทตัวอย่างปัสสาวะของเขาที่เตรียมมาแล้วลงไปในเครื่อง เครื่องคอมฯ เริ่มส่งเสียงครืดคราดๆ สักครู่ ก็มีกระดาษแผ่นเล็กๆ ออกมาจากตัวเครื่อง ในกระดาษเขียนว่า
"คุณเป็นโรคหัวเข่าอักเสบ ให้ใช้น้ำอุ่นประคบบ่อยๆ อย่ายกของหนักสักสองสัปดาห์"
เมื่อกลับมาถึงบ้าน เคนนั่งคิดถึงความไฮเทคของคอมพิวเตอร์เครื่องวิเศษเครื่องนั้น และอยากจะทดสอบว่าคอมพิวเตอร์เก่งจรึงรึเปล่าจึงวางแผนอะไรทำอะไรพิเรนๆ เขานำน้ำประปาผสมกับปัสสาวะของหมา แล้วนำปัสสาวะของเมียและลูกสาวเขาผสมลงไปอีก วันรุ่งขึ้น เขารีบไปที่ร้านขายยาร้านเดิม และกรอกน้ำทั้งหมดลงไปให้เครื่องวินิจฉัย เครื่องส่งเสียงครืดคราด สักครู่ก็มีกระดาษแผ่นเล็กๆ ออกมา ใจความว่า
"น้ำประปาบ้านคุณสกปรกเกินไป ควรเปลี่ยนเครื่องกรองน้ำใหม่ สุนัขของคุณมีเห็บ ควรพาไปหาแพทย์และให้วิตามินเสริม ลูกสาวคุณติดโคเคน พาเธอไปหาหมอให้เลิกยาซะ เมียคุณกำลังตั้งครรภ์และมีลูกแฝด แต่ไม่ใช่ลูกของคุณ เตรียมหาทนายความได้แล้ว
P.s. ชั้นรู้นะว่าแกเป็นใคร ถ้าขืนเล่นพิเรนอย่างนี้อีก อย่าหวังเลยว่าโรคปวดเข่าจะหายน่ะ
จากคุณ - Ambrosia
@@@ตาหลก@@@
นายกบ นายแท่ง นายมอส แห่งสามหนุ่มสามมุมได้รับเลือกให้เป็นพรีเซ้นเตอร์ ของ โค้ก.. (ขอค่าโฆษณาด้วยนะ อิ อิ) ในเทศกาลบอลโลกครั้งนี้..วันนี้เอง ทั้งสาม ก็ได้มีโอกาสออกความคิดเห็นร่วมกับครีเอทีพด้วย.......!
ครีเอทีฟ--- คือ.เอ้อ คอนเซป ของผมนะครับ.. เราจะนำโฆษณาชุดนี้ไปฉายช่วง แข่งขันบอลโลก..การถ่ายทำนะครับ. ผมจะให้คุณทั้งสามคน แต่งตัวเป็นนักฟุตบอล คุณกบแต่งบราซิล..คุณแท่งแต่งเยอรมัน..คุณมอสจะแต่งชุดของฝรั่งเศส.. คุณทั้งสามคนจะต้องยืนเรียงกันตามลำดับนะครับ.... พอกล้องเริ่มถ่าย..แอ๊คชั่น คุณทั้งสามก็กระดกกระป๋องโค้กดื่มเลยนะครับ...มีใครจะเพิ่มเติมบ้างไหมครับ...
นายกบกับนายแท่ง ไม่มีปัญหาอะไร ยกเว้นนายมอส..
มอส--- พี่..เอ้อคือ ผมไม่ยืนไม่ได้เหรอครับ..ขอนั่งยองๆนะครับพี่..
ครีเอทีฟ--- เอ้ย..! คุณ จะนั่งได้ไงล่ะ...ภาพที่ออกมามันจะไม่สวยน้า..
มอส--- โธ่..พี่นั่งนะครับ..ผมขอร้อง
ครีเอทีฟ--- มันเมื่อยหรือไงคุณมอส... ไหนลองอธิบายเหตุผลหน่อยสิ.. เผื่อถ้าเหตุผลดีก็จะ โอเค..
มอส--- คืออ่ะ...พี่กบกับพี่แท่งเขายืนน่ะไม่มีปัญหาหลอก..แต่ผมดี้ ถ้าพี่ให้ ผมยืน..เขาก็จะเอาจอทีวีแข่งบอลมาบังหน้าผม.. คนดูเขาก็ไม่รู้ว่าเป็นผมดี้ครับ..โธ่
8(^_^)8 จากคุณ : note
@@@ตาหลก@@@
ระหว่างกำลังจะหมดเวลาครึ่งหลัง ระหว่างอังกฤษกับโรมาเนีย (ไม่บอกว่าใครนำใคร) ได้มีกองเชียร์กลุ่มหนึ่งประมาณ 50คน กำลังเมาได้ที่จับกลุ่มยืนประท้วงขว้างปาขวดใส่ สนามบอลทำให้การแข่งขันต้องหยุดชะงักไปชั่วขณะหนึ่ง.. ประธานฟีฟ่าเลยสั่งการ ให้ รปภ. ลงไปเครียร์...
ประธานฟีฟ่า--- มันเกิดอะไรขึ้น หือ!
รปภ.--- กองเชียร์อังกฤษครับ..กำลังเมาได้ที่เลยครับ..เขาประท้วงกรรมการรักษาเวลาน่ะครับ
ประธานฟีฟ่า--- อ้าว! ก็เวลากำลังจะหมดแล้ว..เขาประท้วงทำไมล่ะ
รปภ.--- ก็กรรมการชูป้าย 15 ขึ้นมา ทำให้เขาโมโหกันใหญ่ครับ..เลยเกิดเรื่อง..
ประธานฟีฟ่า--- อ๋อ! เข้าใจแล้ว...ไปบอกพวกเขา โรมาเนียเขากำลังจะเอาหมายเลข 15 ลงเล่น ปัดโธ่เว๊ยยย......
.8(^^)8 จากคุณ : note
@@@ตาหลก@@@
หนุ่มหนึ่งไปเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน..พอผัวเขารู้เข้า หนุ่มก็ถูกยิงตาย ในการพิพากษาในนรก....!
มัจจุราช--- เจ้าเป็นชู้ สมสู่กับเมียชาวบ้าน.. ต้องโทษปีนต้นงิ้วเป็น เวลา 10 ปีนรก...เจ้าจะยอมรับหรือไม่
หนุ่ม--- ยอมครับ..
จากนั้นหนุ่มก็ถูกยมทูตพาตัวไปปีนต้นงิ้ว..ขณะที่กำลังเริ่มปีนอยู่นั้น หนุ่มก็แห่งะไปเห็นหนุ่ม 4 คนกำลังรุมโทรมหญิงนางหนึ่งอยู่ข้างๆ ต้นงิ้ว..ด้วยความสงสัย หนุ่มจึงหันไปถามยมทูต..
หนุ่ม--- ท่านยมทูตครับ..พวกนั้นเขาทำผิดอะไร ถึงมีโทษเช่นนั้นครับ
ยมทูต--- อ๋อ! ความผิดเหมือนเจ้านั่นแหละ ผิดลูกผิดเมียชาวบ้านน่ะ.
หนุ่ม--- โอ้โห..งั้นก็ไม่ยุติธรรมสิครับ.. ทำไมผมถึงต้องปีนต้นงิ้วด้วยล่ะ. แต่ พวกนั้น. โห! สบายเลย..ผมขอเปลี่ยนเป็นแบบนั้นดีกว่า..
ยมทูต--- เอ๊ย! ไม่ได้ มันผิดระเบียบ..
หนุ่ม--- ถ้าไม่ได้..อืม! เดี๋ยวผมจะไปฟ้องท่านมัจจุราช.. แล้วท่านจะหนาว
ยมทูต--- เออๆๆ..ข้ายอมเอ็งแล้ว..
พลางท่านยมทูตหันไปพูดกับหนุ่มพวกนั้น..
ยมทูต--- เอ๊ยๆ..พวกเอ็ง เลิกข่มขืนนางนั่นได้แล้ว..เอานางนั่นไปปีนต้นงิ้ว แล้วพวกเอ็งมารุมข่มขืนไอ้นี่แทน..มันขอข้าว่ะ..ผั๊บผ่าสิ.!
หนุ่ม--- อ้าว.เอ๊ยยยย!
8(^^)8 จากคุณ : note - [26 มิ.ย. 2541 00:27:03]