สถานีอวกาศเมียร์
(1)
ในรอบปีที่ผ่านมา
ผู้ที่ติดตามข่าวสารด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีคงจะสังเกตได้ว่าสถานีอวกาศเมียร์
(Mir space station) ปรากฏเป็นข่าวอยู่บ่อยครั้งด้วยเรื่องในทางที่ไม่ค่อยดีทั้งสิ้น
เช่น เครื่องทำความเย็นไม่ทำงานบ้าง
สถานีมีรอยรั่วซึมบ้าง
ฯลฯ และที่ร้ายที่สุดคือโดยยานอวกาศชนจนชำรุดเสียหายขนาดหนัก
หลังจากนั้นก็ประสบกับปัญหาซ้ำเติมไม่หยุดหย่อน
ผู้ที่ติดตามข่าวส่วนใหญ่อาจไม่ทราบว่าสถานีอวกาศเมียร์นั้นมีความเป็นมาอย่างไร
และมีความสำคัญเช่นไร
นิทรรศการนี้จึงขอนำเสนอความเป็นมา
ความสำคัญ
และปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นกับสถานีอวกาศแห่งนี้แก่คุณผู้อ่าน
พร้อมทั้งภาพถ่ายในอวกาศที่หาดูได้ยาก
ก่อนจะมาเป็นเมียร์
สหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียต
(ชื่อในสมัยก่อน
ปัจจุบันสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว)
ต่างก็แข่งขันกันเพื่อชิงความเป็นหนึ่งทางด้านอวกาศ
โลกก้าวเข้าสู่ยุคอวกาศในทศวรรษที่
1950 โดยแรกที่สุดนั้น
โซเวียตสามารถส่งดาวเทียมขึ้นสู่ห้วงอวกาศได้ก่อน
ดาวเทียมดวงแรกของโลกนี้มีชื่อว่า
สปุตนิก 1 (Sputnik
1) ถูกส่งขึ้นสู่ห้วงอวกาศในปี
ค.ศ. 1957 และในปีถัดมา
สหรัฐอเมริกาก็ไม่ยอมน้อยหน้า
ส่งดาวเทียมเอ็กซ์พลอเรอร์
1 (Exploror 1) ตามขึ้นไปบ้าง
หลังจากนั้นทั้ง
2 ชาติต่างก็ขับเคี่ยวด้านการบุกเบิกอวกาศกันมาตลอด
ในช่วง
ค.ศ. 1971 ถึง 1882 โซเวียตดำเนินโครงการสถานีอวกาศซัลยุต
(Salyut) อันประกอบด้วยสถานีอวกาศถึง
7 รุ่นตลอดโครงการ
โครงการสถานีอวกาศของโซเวียตนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการใช้ชีวิตและการทำงานในห้วงอวกาศ
รวมทั้งใช้เป็นสถานที่ศึกษาปรากฏการณ์ในห้วงอวกาศ
การทำการทดลองทางวิทยาศาสตร์ต่างๆในสภาพที่มีแรงโน้มถ่วงน้อย
ฯลฯ
สถานีอวกาศซัลยุต
|
|
เมื่อโซเวียตมีโครงการสถานีอวกาศ
สหรัฐอเมริกาก็ไม่ยอมน้อยหน้าเช่นเคย
ในปี ค.ศ. 1973 สหรัฐอเมริกาได้ส่งสถานีอวกาศสกายแล็บ
(Skylab) ขึ้นไปโคจรอยู่นอกโลกและมีการส่งลูกเรือไปประจำการ
ต่อมาในปี
ค.ศ. 1979 สกายแล็บก็หมดอายุขัย
ซึ่งตามแผนขององค์การนาซา
สกายแล็บที่หล่นจากวงโคจรจะตกลงในมหาสมุทรอินเดีย
แต่เกิดความผิดพลาดขึ้น
เศษซากบางส่วนของสกายแล็บซึ่งแตกกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยขณะตกสู่โลกได้หล่นลงสู่พื้นดินแถบออสเตรเลีย
โชคดีที่ไม่มีใครได้รับอันตรายจากเศษของสถานีอวกาศค้างฟ้าแห่งนี้แต่ก็เป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลกอยู่พักหนึ่ง
|
สถานีอวกาศสกายแล็บ
|
เมียร์
กรุยทางสู่นิคมในอวกาศ
เมื่อหมดจากยุคของซัลยุตและสกายแล็บก็เข้าสู่ยุคของสถานีอวกาศเมียร์
วัตถุประสงค์ของเมียร์ยังคงคล้ายคลึงกับของซัลยุต
นั่นคือใช้เป็นสถานที่ศึกษาการใช้ชีวิตในห้วงอวกาศในระยะยาว
รวมทั้งใช้สังเกตปรากฏการณ์ในห้วงอวกาศและใช้ทำการทดลองทางวิทยาศาสตร์
ผสมกันไปทั้งกิจการทหารและพลเรือน
ในขณะที่โซเวียตให้ความสนใจบุกเบิกอวกาศทางด้านสถานีอวกาศอันจะเป็นฐานความรู้สำหรับการสร้างนิคมในอวกาศต่อไปดังในนิยายวิทยาศาสตร์
สหรัฐอเมริกาดูเหมือนจะไม่อยากแข่งขันด้วย
แต่หันไปเอาดีทางด้านโครงการกระสวยอวกาศ
(space shuttle) อันเป็นยานที่ใช้เป็นพาหนะเดินทางไปมาระหว่างโลกและอวกาศได้หลายครั้ง
แต่ก็ปรากฏในเวลาต่อมาว่าโครงการของทั้ง
2 ชาตินี้สามารถหนุนเสริมการบุกเบิกอวกาศซึ่งกันและกันได้เป็นอย่างดี
มุมกล้องสวยๆของสถานีอวกาศเมียร์
ซึ่งมีพื้นโลกที่โดนแสงอาทิตย์สาดส่อง
เพียงบางส่วนเป็นฉากหลัง
ภาพนี้ถ่าย
จากยานกระสวยอวกาศแอตแลนติส
|
|
|
มองโลกจากสถานีอวกาศเมียร์
ในภาพนี้จะเห็นส่วนหนึ่งของ
สถานีอวกาศด้วย
|
สถานีอวกาศเมียร์เป็นสถานีอวกาศแบบแยกส่วน
มีส่วนประกอบหลักทั้งสิ้น
7 ส่วนหรือที่เรียกว่า
7 มอดูล (module) โดยส่วนแกน
(core module) ซึ่งเป็นมอดูลหลักในการให้มอดูลอื่นๆมาต่อด้วยนั้นถูกส่งขึ้นสู่วงโคจรเหนือโลก
390 กิโลเมตรเมื่อเดือนกุมภาพันธ์
ค.ศ. 1986 และหลังจากนั้นมอดูลอื่นๆก็ถูกส่งตามขึ้นไปในภายหลัง
ส่วนประกอบของเมียร์
สถานีอวกาศเมียร์ทั้งระบบมีน้ำหนักรวมกันราว
130 ตัน แต่อาจมีน้ำหนักเปลี่ยนแปลงไปจากนี้ได้บ้าง
ขึ้นอยู่กับว่ามีการขนถ่ายอุปกรณ์อะไรเข้าไปหรือออกมาจากสถานีอวกาศ
ในส่วนของมอดูลแกนนั้นมีขนาดกว้างประมาณ
4.2 เมตร ยาว ประมาณ
13 เมตร หรือประมาณเท่ากับตึกแถวชั้นเดียว
1 คูหา (ตึกแถวโดยทั่วไปจะมีขนาดกว้าง
4 เมตรและลึก
12 เมตร)
เนื่องจากสถานีอวกาศเมียร์นี้ถูกออกแบบให้มีมนุษย์ประจำการในระยะยาวได้
2-3 คน มอดูลแกนนี้เป็นส่วนหลักและถูกส่งขึ้นไปเป็นมอดูลแรก
ดังนั้นมันจึงต้องมีความสมบูรณ์ในตัวเอง
มีอุปกรณ์ที่จำเป็นทุกอย่าง
มอดูลแกนนี้แบ่งออกเป็นพื้นที่ใช้สอยและพื้นที่อื่นๆ
อาทิ ห้องเครื่องยนต์
ทางเดิน ช่องเชื่อมต่อ
ฯลฯ ในส่วนพื้นที่ใช้สอยเองยังแบ่งออกเป็นพื้นที่ส่วนปฏิบัติการหรือส่วนทำงานและส่วนที่พักอาศัย
อันประกอบไปด้วยห้องควบคุม
ห้องนอน ห้องครัว
และห้องน้ำ
ฯลฯ ลักษณะการตกแต่งภายในคล้ายบ้านเพื่อให้ความรู้สึกที่ดีแก่ผู้ที่มาประจำการ
แต่ถึงอย่างไรก็คงไม่สบายเท่ากับอยู่บนโลก
เพราะแต่ละห้องแต่ละส่วนนั้นล้วนแต่มีขนาดเท่ารังหนูเนื่องจากมีพื้นที่อันจำกัด
มอดูลต่างๆของเมียร์
คลิกที่ภาพเพื่อดูภาพของแต่ละมอดูล
ส่วนหัวของมอดูลแกนต่อกับยานโซยุซ-ทีเอ็ม
(Soyuz-TM) อันเป็นยานที่ควบคุมด้วยมนุษย์
ยานโซยุซ-ทีเอ็มนี้ใช้เป็นพาหนะขนส่งมนุษย์อวกาศไปกลับระหว่างสถานีอวกาศและโลก
รวมทั้งยงใช้เป็นยานช่วยชีวิตในกรณีที่สถานีอวกาศเกิดเหตุร้าย
ส่วนท้ายของมอดูลแกนต่อกับมอดูลควันต์และยานพรอเกรสส์-เอ็ม
(Progress-M) อันเป็นยานที่ควบคุมด้วยระบบอัตโนมัติ
ไม่ใช้มนุษย์ควบคุม
มีหน้าที่ขนส่งสัมภาระและเสบียงจากโลกมาสู่สถานีอวกาศ
รวมทั้งขนสัมภาระและขยะจากสถานีอวกาศกลับสู่โลก
ยานโซยุซ-ทีเอ็ม
(ศรชี้) กำลัง
บินออกจากสถานีอวกาศเมียร์
|
|
|
ยานโซยุซ-ทีเอ็มกำลังเข้าเชื่อมต่อกับ
เมียร์
ส่วนที่เห็นเป็นห้องทรงกลมสีดำ
บริเวณกลางภาพคือห้องนักบิน
ส่วน
ที่เห็นคล้ายปีกแผ่ออกไปจากตัวยาน
คือแผงเซลล์สุริยะซึ่งมีหน้าที่เป็นแหล่ง
พลังงานแก่ยานขณะเดินทางในอวกาศ
|
มนุษย์อวกาศชาวรัสเซียที่
ประจำการอยู่ในสถานีอวกาศ
ชีวิตในอวกาศเป็นชีวิตที่ไร้แรงโน้มถ่วง
ผู้ที่ถูกส่งไปประจำการต้องได้รับการ
ฝึกฝนมาโดยเฉพาะ
ที่เห็นเป็นก้อน
สีดำลอยอยู่กลางภาพและทั้งสอง
กำลังจ้องดูอยู่คือกล้องถ่ายภาพยนตร์
และจะสังเกตได้ว่าห้องใน
สถานีอวกาศแห่งนี้มีขนาดเล็กคับแคบ
|
|
นอกจากส่วนหัวและท้ายแล้ว
รอบตัวมอดูลแกนยังเป็นช่องทางสำหรับต่อมอดูลได้อีก
4 มอดูล ได้แก่
มอดูลควันต์
2 คริสตัลล์
สเปกตร์ และไพรรอดา
มอดูลควันต์
(Kvant module) เป็นมอดูลแรกที่ถูกส่งขึ้นไปต่อกับมอดูลแกนในปี
ค.ศ. 1987 มอดูลควันต์นี้ต่อเข้าทางส่วนท้ายของมอดูลแกน
ภายในบรรจุกล้องโทรทรรศน์และอุปกรณ์ในการดำรงชีพ
มอดูลนี้ใช้ศึกษาปรากฏการณ์ในอวกาศเป็นหลัก
หลังจากนั้นในปี
ค.ศ. 1989 มอดูลควันต์
2 (Kvant 2 module) ก็ถูกส่งขึ้นไปต่อ
ภายในมอดูลควันต์
2 ประกอบด้วยอุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์
อุปกรณ์สำหรับควบคุมทิศทางของสถานีอวกาศ
และอุปกรณ์ทั้งที่จำเป็นและที่เพิ่มความสะดวกสบายในการดำรงชีวิต
อาทิ ระบบน้ำดื่มและออกซิเจน
ระบบควบคุมการเคลื่อนไหว
อุปกรณ์ซักล้าง
ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีห้องกักอากาศซึ่งใช้เป็นช่องทางสำหรับให้มนุษย์อวกาศออกไปปฏิบัติการนอกสถานีอวกาศพร้อมชุดอวกาศอีกด้วย
สถานีอวกาศเมียร์เมื่อดูในระยะใกล้
แผ่นยาวลักษณะเป็นแผงคล้ายปีกที่
เห็นทางด้านขวาของภาพคือแผงเซลล์
สุริยะที่ให้เป็นแหล่งกำเนิดพลังงาน
ให้แก่สถานีอากาศ
|
|
|
ห้องควบคุมบนภาคพื้นดิน
|
มอดูลคริสตัลล์
(Kristall module) ถูกส่งขึ้นไปต่อกับสถานีอวกาศในปี
ค.ศ. 1990 ประกอบด้วยแผงเซลล์สุริยะเพื่อแปลงพลังงานจากแสงอาทิตย์มาเป็นพลังงานไฟฟ้า
ใช้เป็นแหล่งพลังงาน
อุปกรณ์และเครื่องมือสำหรับทำการทดลองทางวิทยาศาสตร์
มอดูลนี้ใช้เพื่องานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ด้านชีววิทยาและด้านการสังเคราะห์สารเป็นหลัก
ยกตัวอย่างเช่น
ทดลองการสังเคราะห์สารต่างๆและศึกษาว่าสารที่สังเคราะห์ได้ในสภาพไร้แรงโน้มถ่วงต่างจากที่สังเคราะห์ได้บนโลกอย่างไร
ฯลฯ นอกจากนี้
ยังมีท่าสำหรับให้กระสวยอวกาศในโครงการกระสวยอวกาศบูรัน
(Buran space shuttle) ของสหภาพโซเวียตมาจอดเทียบ
ต่อมาโครงการกระสวยอวกาศนี้ต้องชะลอออกไปเนื่องจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียตในปี
ค.ศ. 1991
เมียร์ขณะโคจรอยู่เหนือ
มหาสมุทรแปซิฟิก
|
|
|
สถานีอวกาศเมียร์กำลังโคจร
อยู่เหนือพื้นโลก
ที่เห็นเป็น
ฉากหลังนั้นคือภาพพายุที่ก่อ
ตัวในแถบมหาสมุทรอินเดีย
ตอนใต้
|
นอกจากนี้ยังมีอีก
2 มอดูลซึ่งจะได้กล่าวถึงต่อไป