logoking.gif (5253 bytes)

headkingh.gif (6915 bytes)

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช   เสด็จพระราชสมภพ  ณ โรงพยาบาลเมานท์ออเบอร์น (Mount  Auburn) เมืองเคมบริดจ์ (Cambridge) รัฐแมสสาชูเซตต์ (Massachusetts) สหรัฐอเมริกา  เมื่อวันจันทร์    เดือนอ้าย ขึ้น 12 ค่ำ ปีเถาะ    นพศก จุลศักราช 1289 ตรงกับวันที่ 5 ธันวาคมพุทธศักราช 2470 มี พระนามเดิมว่าพระวรวงศ์เธอ    พระองค์เจ้าภูมิพลอดุลยเดช  เป็น พระราชโอรส พระองค์เล็กในสมเด็จพระราชบิดา    เจ้าฟ้ามหิดลอดุลเดช กรมหลวงสงขลานครินทร์ (พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จ  พระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว      และสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี)      และสมเด็จพระราชชนนีศรีสังวาลย์      ซึ่งภายหลังทั้งสองพระองค์ได้รับการเฉลิมพระนามาภิไธย    เป็นสมเด็จพระมหิตลาธิเบศรอดุลยเดชวิกรม   พระบรมราชชนก และสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี พระเชษฐภคินี    และสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช    คือ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา   กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์     ประสูติเมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 พฤษภาคม  พุทธศักราช 2466  ณ   กรุงลอนดอน  ประเทศอังกฤษ    กับพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล         เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 กันยายน พุทธศักราช 2468 ณ เมืองไฮเดลแบร์ก ประเทศเยอรมนี

          เมื่อพุทธศักราช 2471 ได้โดยเสด็จสมเด็จพระบรมราชชนก    ซึ่งทรงสำเร็จการศึกษาปริญญาแพทยศาสตรบัณฑิตเกียรตินิยม     จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐอเมริกา กลับประเทศไทย ประทับ  ณ วังสระปทุม    ต่อมาในวันที่ 24 กันยายน พุทธศักราช 2472    สมเด็จพระบรมราชชนกสวรรคต   ขณะนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบันทรงเจริญพระชนมายุได้ไม่ถึง 2 ปี และเมื่อมีพระชนมายุได้ 5 ปี     ได้ทรงเข้ารับการศึกษาชั้นต้น ณ โรงเรียนมาแตร์ เดอี  กรุงเทพฯ    จนถึงพุทธศักราช 2476         จึงเสด็จพระราชดำเนินไปประทับ ณ  เมืองโลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์    พร้อมด้วยสมเด็จพระบรมราชชนนีพระเชษฐภคินีและสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช    เพื่อทรงศึกษาต่อในชั้นประถมศึกษาในโรงเรียน Miremont ทรงศึกษาวิชาภาษาฝรั่งเศส ภาษาเยอรมัน และภาษาอังกฤษ    จากนั้นทรงเข้าศึกษาชั้นมัธยมศึกษาที่โรงเรียน Ecole Nouvelle de la Suisse Romande, Chailly - sur Lausanne เมื่อทรงรับประกาศนียบัตร Bachelier e’s Lettres จาก Gymnase Classique Cantonal แห่งเมืองโลซานน์แล้ว ทรงเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยโลซานน์    โดยทรงเลือกศึกษาในแขนงวิชาวิทยาศาสตร์ ในพุทธศักราช 2477 พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าอานันทมหิดล เสด็จขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 8 แห่งบรมราชจักรีวงศ์       พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าภูมิพลอดุลเดช    จึงทรงได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอเจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดช    เมื่อพุทธศักราช 2478    และได้โดยเสด็จพระราชดำเนินสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลนิวัต และประเทศไทยเป็นครั้งแรก 

            ในพุทธศักราช 2481   โดยประทับ ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิตเป็นการชั่วคราว      แล้วเสด็จพระราชดำเนินกลับไปประเทศสวิตเซอร์แลนด์จนถึงพุทธศักราช 2488       จึงโดยเสด็จพระราชดำเนินสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล นิวัตประเทศไทยเป็นครั้งที่สอง ครั้งนี้ประทับ ณ พระที่นั่งบรมพิมาน ในพระบรมมหาราชวัง

            วันที่ 9 มิถุนายน พุทธศักราช 2489 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลเสด็จสวรรคตโดยกะทันหัน ณ พระที่นั่งบรมพิมาน ในพระบรมมหาราชวัง สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอเจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดช    จึงเสด็จขึ้นครองราชสมบัติสืบราชสัตติวงศ์ในวันเดียวกันนั้น   แต่เนื่องจากยังมีพระราชกิจด้านการศึกษา จึงต้องทรงอำลาประชาชนชาวไทยเสด็จพระราชดำเนินกลับไปยังประเทศสวิตเซอร์แลนด์อีกครั้งหนึ่งในเดือนสิงหาคม พุทธศักราช 2489  เพื่อทรงศึกษาต่อ ณ มหาวิทยาลัยแห่งเดิม  ในครั้งนี้ทรงเลือกศึกษาวิชากฎหมาย    และวิชารัฐศาสตร์แทนวิชาวิทยาศาสตร์ที่ทรงศึกษาอยู่เดิม         

king4.jpg (4858 bytes)

ระหว่างที่ประทับศึกษาอยู่ในต่างประเทศนั้น      ทรงพบหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร ธิดาในหม่อมเจ้านักขัตรมงคล กิติยากร กับหม่อมหลวงบัว (สนิทวงศ์)     กิติยากร (ภายหลัง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้สถาปนาพระอิสริยยศหม่อมเจ้านักขัตรมงคลฯ ขึ้นเป็นพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้านักขัตรมงคล เมื่อพุทธศักราช 2493    และขึ้นเป็นพระองค์เจ้าต่างกรม มีพระนามว่าพระวรวงค์เธอ กรมหมื่นจันทบุรีสุรนาถ   เมื่อพุทธศักราช 2495)    ต่อมาทรงหมั้นกับหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร  ในวันที่ 19 กรกฎาคม พุทธศักราช 2492  ณ เมืองโลซานน์   ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

             ในพุทธศักราช 2493    เสด็จพระราชดำเนินนิวัตพระนคร ประทับ  ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน    พระราชวังดุสิต   ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม      ให้ตั้งการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล ในเดือนมีนาคม พุทธศักราช 2493 ต่อมาในวันที่ 28 เมษายน ปีเดียวกัน ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดการพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสกับหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร  ณ พระตำหนักสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวีพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ในวังสระปทุม     ซึ่งในการพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสนี้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สถาปนาหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร ขึ้นเป็นสมเด็จพระราชินีสิริกิติ์

king3.jpg (8296 bytes)

ในวันที่ 5 พฤษภาคม พุทธศักราช 2493 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ตั้งการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกตามแบบอย่างโบราณราชประเพณีขึ้น ณ พระที่นั่งไพศาลทักษิณในพระบรมมหาราชวัง เฉลิมพระบรมนามาภิไธย ตามที่จารึกในพระสุพรรณบัฎว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร    พร้อมทั้งพระราชทานพระปฐมบรมราชโองการว่า เราจะปกครองแผ่นดินโดยธรรมเพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม และในโอกาสนี้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมสถาปนาเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระราชินีสิริกิติ์ขึ้นเป็น สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี

            หลังจากเสร็จการพระราชพิธีบรมราชภิเษกแล้ว ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงรักษาพระสุขภาพ    ณ เมืองโลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตามที่คณะแพทย์ได้ถวายคำแนะนำ และระหว่างที่ประทับในเมืองโลซานน์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี มีพระประสูติกาลพระราชพระราชธิดาพระองค์แรกคือ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนพรรณวดี ซึ่งประสูติ ณ โรงพยาบาลมองซัวซีส์    เมืองโลซานน์เมื่อวันที่ 5 เมษายน พุทธศักราช 2494 และเมื่อสมเด็จพระเจ้าลูกเธอพระองค์แรกเจริญพระชันษาได้ 7 เดือน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จพระราชดำเนินนิวัตพระนคร ประทับ ณพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต จากนั้นทรงย้ายที่ประทับ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต    เนื่องจากทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ปรับปรุงพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน    สำหรับเป็นที่ประทับแทนการที่รัฐบาลจะจัดสร้างพระตำหนักขึ้นใหม่ และที่พระที่นั่งอัมพรสถานนี้เอง สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี   มีพระประสูติกาลพระราชโอรส    และพระราชธิดาอีกสามพระองค์ คือ

            สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณประสูติเมื่อ วันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคมพุทธศักราช 2495 ในพุทธศักราช 2515 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมสถาปนาขึ้นเป็น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวิชราลงกรณ์ สยามมกุฎราชกุมาร 

            สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ    เจ้าฟ้าสิรินธรเทพรัตนราชสุดากิติวัฒนาดุลโสภาคย์ ประสูติเมื่อวันเสาร์ที่ 2 เมษายน พุทธศักราช 2498  ในพุทธศักราช 2520      ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมสถาปนาขึ้นเป็น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี

            สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ประสูติเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 กรกฎาคม พุทธศักราช 2500

           พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระผนวชเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม พุทธศักราช 2499 ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามในพระบรมมหาราชวังและประทับจำพรรษา ณ พระตำหนักปั้นหยา วัดบวรนิเวศวิหาร มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์     พระบรมราชินีเป็นผู้สำเร็จราชการ ทรงปฎิบัติราชการแผ่นดินแทนพระองค์ตลอดเวลา 15 วันที่ทรงพระผนวชอยู่และจากการที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินี ทรงปฎิบัติพระราชกรณียกิจในตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ได้อย่างเรียบร้อยเป็นที่พอพระราชหฤทัย จึงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมสถาปนาขึ้นเป็น สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในปีเดียวกันนั้นเอง และในวันที่ 31ตุลาคม   พุทธศักราช 2500      หลังจากทรงประกอบพิธีเฉลิมพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน ซึ่งได้ต่อเติมขึ้นใหม่แล้ว    ทรงย้ายที่ประทับจากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต กลับไปประทับที่พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน    พระราชวังดุสิต จนถึงปัจจุบัน